Bryan Johnson และ Don’t Die | เทคโนโลยี Longevity ที่นำไปใช้ได้จริง

วิเคราะห์แนวทางชะลอวัยของ Bryan Johnson จากซีรีส์ Don’t Die พร้อมเทคโนโลยีที่คลินิกสามารถเริ่มต้นใช้ได้จริง เช่น DNA, epigenetics, AI health

Bryan Johnson and Don’t Die | Longevity Technologies Your Clinic Should Know
BLOG16 Jun 2025

Bryan Johnson กับเส้นทาง Longevity แห่งอนาคต: เทคโนโลยีจริงที่คลินิกควรศึกษา

ปี 2025 คือช่วงเวลาที่โลกสุขภาพหันมาให้ความสนใจกับ “Longevity Technology” อย่างเต็มรูปแบบ และชื่อหนึ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ Bryan Johnson นักธุรกิจผู้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเคสตัวอย่างของการดูแลสุขภาพเชิงลึกในระดับที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ซีรีส์สารคดีของ Netflix เรื่อง "Don’t Die" ได้เผยให้เห็นการใช้ชีวิตที่อุทิศเพื่อการชะลอวัยของเขาอย่างละเอียด ตั้งแต่การเก็บข้อมูลร่างกายทุกวันนับร้อยค่า การใช้ AI ประสานงานทีมแพทย์หลากหลายสาขา ไปจนถึงการลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อลดอายุชีวภาพของตนเองให้ต่ำกว่าปีเกิด

แม้หลายคนมองว่าสิ่งที่เขาทำสุดโต่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เทคโนโลยีที่เขาใช้กำลังกลายเป็นความจริงในคลินิกและธุรกิจสุขภาพทั่วโลก

 

เทคโนโลยีที่ Bryan Johnson ใช้จริง และคลินิกควรศึกษา

1. การตรวจอายุชีวภาพ (Epigenetic Age Testing)

เขาใช้เทคนิคตรวจ epigenetic clocks เช่น Horvath Clock และ DunedinPACE เพื่อตรวจสอบอายุชีวภาพที่แท้จริงของเซลล์ ซึ่งต่างจากอายุปฏิทิน เป็นการวัดที่แม่นยำและใช้เพื่อประเมินผลของโปรแกรมชะลอวัย

  • ใช้แสดงผลก่อน-หลังทำโปรแกรมสุขภาพ
  • เป็นดัชนีสำคัญในการติดตามสุขภาพระยะยาว

     

2. ระบบ AI บริหารจัดการสุขภาพ (AI Health Management)

ภายใต้โครงการ Project Blueprint เขาใช้ AI ควบคุมการทำงานของทีมแพทย์กว่า 30 คน วิเคราะห์ข้อมูลจาก biomarkers หลายร้อยค่า เพื่อวางแผนสุขภาพแบบอัตโนมัติ

  • สร้างระบบ dashboard เพื่อประเมินและปรับกิจวัตรประจำวัน

     

3. Wearables และการติดตามสุขภาพแบบ Real-time

เขาใช้ Oura Ring, CGM (Continuous Glucose Monitor), HRV tracker และอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพแบบวันต่อวัน โดยข้อมูลทั้งหมดถูกรวมในระบบวิเคราะห์ส่วนตัว

  • ตรวจคุณภาพการนอน ระดับน้ำตาลในเลือด ความเครียด ฯลฯ

     

4. การวิเคราะห์ Multi-omics จริงจัง

เขาเก็บข้อมูลจาก DNA, microbiome, blood panel, metabolomics, proteomics เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจแบบมีหลักฐาน

  • ข้อมูลถูกใช้วางแผนโภชนาการ เสริมวิตามิน และออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

     

5. การตรวจ MRI และ Ultrasound เชิงรุก

เขาทำ full-body MRI และตรวจอวัยวะต่าง ๆ อย่างละเอียดเพื่อหาความเสื่อมภายใน แม้ยังไม่มีอาการ ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพล่วงหน้าได้

  • ตัวอย่างการนำแนวคิดนี้มาใช้ในคลินิกคือการให้บริการ "preventive screening"
     

แล้วคลินิกสามารถเริ่มต้นอย่างไรได้บ้าง?

ไม่จำเป็นต้องใช้งบมหาศาลแบบ Bryan Johnson แค่เริ่มต้นง่าย ๆ จากเครื่องมือวิเคราะห์ DNA และ epigenetics จากฐานข้อมูลเฉพาะ รองรับการทำงานร่วมกับคลินิกในรูปแบบ white-label หรือ partnership อย่างเต็มรูปแบบ

สิ่งที่คลินิกสามารถทำได้ทันที:

  • ตรวจ DNA เพื่อวางโครงสร้างโภชนาการ / โปรแกรมสุขภาพส่วนบุคคล
     
  • วัดอายุชีวภาพเพื่อประเมินพัฒนาการของลูกค้า
     
  • ออกแบบบริการ wellness ระยะยาวที่วัดผลได้ (ไม่ใช่แค่ทำให้รู้สึกดี)
     

ไม่ต้องสุดโต่งแบบ Bryan แต่ควรรู้ทิศทางของเทคโนโลยีสุขภาพ

Bryan Johnson เปรียบเสมือนภาพอนาคตที่ถูกนำมาโชว์ในวันนี้ คลินิกอาจไม่ต้องทำทุกอย่างแบบเขา แต่ควรเรียนรู้แนวคิดสำคัญ คือ ใช้ข้อมูลสุขภาพเป็นเครื่องมือในการสร้างคุณค่าและวัดผลได้จริง

ถ้าคุณกำลังมองหาแนวทางใหม่ในการสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มคุณค่าให้แบรนด์คลินิก เทคโนโลยีชะลอวัยในวันนี้ โดยเฉพาะ DNA และ epigenetics อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด

ยกระดับคลินิกของคุณด้วยเทคโนโลยี Longevity ที่ทันสมัย ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นได้ที่นี่
Line: @genfosis
โทร: 02 030 2624 / 06-1656-6047
อีเมล: contact@genfosis.com

Tags: Bryan Johnson, Don't Die, Longevity Technology, DNA, Epigenetics